1. การขันเกลียวฝาสูบที่ถูกต้องควรขันอย่างไร
1) เริ่มขันสลักเกลียวจากหน้าเครื่องไปท้ายเครื่อง
2) เริ่มขันสลักเกลียวจากด้านท้ายเครื่องไปทางหน้าเครื่อง
3) เริ่มขันสลักเกลียวจากตรงกลางออกไปด้านซ้าย-ขวา
4) เริ่มขันสลักเกลียวจากด้านนอกแล้วค่อยๆ ขับไล่เข้าตรงกลาง
เฉลย ข้อ3
แนวความคิด
ขันแบบกากบาท หรือตัว x เริ่มจากตรงกลางตรงกันแล้วไขว้ออกทั้ง 2 ด้าน
2. การถอดแหวนลูกสูบที่ถูกต้อง ควรถอดแหวนตัวใดก่อน
1) แหวนกวาดน้ำมัน
2) แหวนอัดตัวกลาง
3) แหวนอัดตัวบน
4) แหวนน้ำมันตัวบน
เฉลย ข้อ 3
แนวความคิด
แหวนลูกสูบมีจำนวน 3 ตัว ต่อ 1 สูบ แหวนตัวบนและตัวที่ 2(Top and 2nd Rings) ทำหน้าที่เป็นแหวนอัด (Compression Rings) สำหรับแหวนตัวที่ 3 เป็นแหวนน้ำมัน (Oil Rings) ทำหน้าที่กวาดน้ำมันหล่อลื่นที่เกินบริเวณผนังกระบอกสูบ ดังนั้นจึงเหลือน้ำมันเครื่อง ในห้องเผาไหม้ด้วยปริมาณที่จำเป็นสำหรับการหล่อลื่นเท่านั้น
3. ถ้าท่อรั่วไอดีของเครื่องยนต์แกโซลีนรั่วจะมีผลต่อเครื่องยนต์อย่างไร
1) ขณะเครื่องเดินเบาะรอบจะสูง
2) สิ้นเปลืองน้ำมันเชื่อเพลิง
3) ส่วนผสมจะบางลง
4) ส่วนผสมจะหนาขึ้น
เฉลย ข้อ 3
แนวความคิด
การทำงานของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน 4 จังหวะ
ในแต่ละรอบการทำงาน (cycle) เครื่องยนต์ 4 จังหวะ ลูกสูบจะเคลื่อนที่ขึ้นลง 4 ครั้ง (ขึ้น 2 ครั้ง ลง 2 ครั้ง) โดยเพลาข้อเหวี่ยงหมุน 2 รอบ การที่ลูกสูบขึ้นลง 4 ช่วงชัก ทำให้เกิดการทำงาน 4 จังหวะ จังหวะการทำงานทั้ง 4 ของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน 4 จังหวะมีดังนี้
1. จังหวะดูด (Intake stroke) เมื่อลูกสูบเริ่มเคลื่อนที่ลง ส่วนผสมของน้ำมันเชื้อเพลิงกับอากาศ (เครื่องยนต์ดีเซลจะดูดเฉพาะอากาศเพียงอย่างเดียว) จะถูกดูดเข้ามาในกระบอกสูบโดยผ่านลิ้นไอดี(intake vavle) ซึ่งเปิดอยู่ ฃิ้นไอดีจะปิดที่ประมาณปลายจังหวะดูด (ใกล้ศูนย์ตายล่าง)
2. จังหวะอัด (Compression stroke) เมื่อลูกสูบเริ่มเลื่อนขึ้น ลิ้นทั้งสองทั้งลิ้นไอดีและลิ้นไอเสีย(Exhaust valve) จะปิดส่วนผสมของน้ำมันเชื้อเพลิงกับอากาศ (เครื่องยนต์ดีเซลจะเฉพาะอากาศเพียงอย่างเดียว) จะถูกอัดจนกระทั้งใกล้ศูนย์ตายบน ส่วนผสมจะถูกจุดโดยหัวเทียน (เครื่องยนต์ดีเซลน้ำมันเชื้อเพลิงจะถูกฉีดเข้ามาโดยหัวฉีด) การเผาไหม้จึงเริ่มขึ้น
3. จังหวะกำลัง , จังหวะระเบิด , (Power stroke) เมื่อลูกสูบเริ่มเลื่อนลงลิ้นทั้งสองยังคงปิดอยู่ แรงดันของแก๊สที่เกิดจากการเผาไหม้ จะกระแทกลงหัวลูกสูบ ผลักดันให้ลูกสูบเลื่อนลง จนกระทั้งใกล้ศูนย์ตายล่าง ลิ้นไอดีเสียจะปิด
4. จังหวะตาย , จังหวะไอเสีย (Exhaust stoke) เมื่อลูกสูบเริ่มเลื่อนขึ้น จะผลักดันให้ไอเสียค้างในกระบอกสูบ ออกไปภายนอกโดยผ่านลิ้นไอเสียที่เปิดอยู่ ลิ้นไอเสียยังคงเปิดอยู่จนกระทั่งลูกสูบเลื่อนผ่านศูนย์ตายบนไปเล็กน้อย จากนั้นจะเป็นการเริ่มจังหวะดูดในรอบการทำงานต่อไป
4. การประกอบหัวฉีดเข้ากับเครื่องยนต์ทุกครั้งต้องทำอย่างไร
1) หมุนเครื่องยนต์ให้ตรงกับตำแหน่งการฉีด
2) ให้หัวเป่าลมทำความสะอาดเครื่องล้างหัวฉีดบนฝากสูบ
3) เปลี่ยนแหวนรองหัวฉีดทุกครั้ง
4) เปลี่ยนไส้กรองที่ชุดฉีดทุกครั้ง
เฉลย ข้อ 1
แนวความคิด
หมุนเครื่องยนต์ให้ตรงกับตำแหน่งการฉีด
5. ชิ้นส่วนที่ใช้ป้องกันแก๊สและน้ำหล่อเย็นรั่วของเครื่องยนต์คือ
1) แหวนอัด
2) ปะเก็บฝาสูบ
3) ปะเก็บอ่างน้ำมันเครื่อง
4) ซิวก้านวาล์ว
เฉลย ข้อ 1
แนวความคิด
1) แหวนอัด = นี้ป้องกันการรั่วของส่วนผสมอากาศและเชื้อเพลิงและแก๊สที่เกิดจากห้องเผาไหม้ระหว่างจังหวะอัด และจุดระเบิดมิให้น้อยลงสู่ห้องเพลาข้อเหวี่ยงจำนวนแหวนอัดนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของเครื่องยนต์ โดยทั่วไปลูกสูบหนึ่งลูกจะมีแหวะอัดสองตัว ซึ่งเรียกว่า “แหวนอัดตัวบน” และ “แหวนอัดตัวที่สอง” แหวะอัดจะมีลักษณะเป็นเทเปอร์ ดังนั้นขอบล่างของมันจึงสัมผัสกับผนังกระบอกสูบ กระออกแบบเช่นนี้เพื่อให้เกิดการสัมผัสที่แนบสนิทกันเป็นอย่างดี ระหว่างแหวนและ กระบอกสูบ นอกจากนั้นยังทำหน้าที่กวาดน้ำมันเครื่องออกจากผนังกระบอกสูบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2) ประเก็บฝาสูบ = ประเก็บฝาสูบป้องกันการรั่วของแก๊สที่เกิดจากการเผาไหม้ตามการจุดระเบิดของเครื่องยนต์
3) ประเก็บอ่างน้ำมันเครื่อง = มีหน้าที่เป็น ที่เก็บน้ำมันเครื่องไว้เพื่อใช้ในการหล่อลื่น โดยมีประเก็นเป็นตัวป้องกันการการรั่วระหว่างเสื้อสูบกับอ่างน้ำมันเครื่อง
4) ซิวก้านวาล์ว = เป็นชิ้นส่วนที่นำมาจากอลูมิเนียมมีหน้าที่ป้องกันการรั่วของน้ำมันเครื่องที่ใช้หล่อลื่น กระเดื่องวาล์ว
6. เครื่องยนต์ดีเซลถ้าปลอกนำลิ้นลึกจะเกิดอาการใด
1) ควันไอเสียมีสีดำ
2) เครื่องยนต์ไม่มีกำลัง
3) กินน้ำมันเชื้อเพลิง
4) ควันไอเสียมีสีขาว
เฉลย ข้อ 1
แนวความคิด
1) ควันไอเสียมีสีดำ = ควันดำ เกิดจากน้ำมันเชื้อเพลิงที่ถูกฉีดเข้าไปในห้องเผาไหม้ในขณะที่ปริมาณของปริมาณของออกซิเจนในห้องเปาไหม้มีไม่เพียงพอ จึงทำให้การเผาไหม้ไม่หมด อนุภาคของเชื้อเพลิงที่หลงเหลือเหล่านี้จะได้รับความร้อนแล้วกลายเป็นสภาพเขม่าที่ถูกปล่อยออกมาทางท่อไอเสีย
2) เครื่องยนต์ไม่มีกำลัง = เกิดจากการเผาไหม้ของน้ำมันดีเซลที่ไม่สมบูรณ์ มีสาเหตุจาก
· หัวฉีดมีการอุดตัน ฉีดน้ำมันไม่เป็นฝอยละเอียด มีแรงดันผิดปกติจากค่ามาตรฐานที่กำหนด
· ปั้มดีเซลจ่ายน้ำมันผิดปรกติ มีแรงดันต่ำหรือสูงกว่ามาตรฐาน ทำให้จังหวะจุดระเบิดผิดปรกติ
· เทอร์โบบกพร่อง สร้างแรงดันและปริมาณอากาศน้อยกว่าปรกติ
3) กินน้ำมันเชื้อเพลิง = อาการเครื่องยนต์กินน้ำมันมากผิดปกติ มีได้หลายสาเหตุ
· ปั๊มดีเซลจ่ายปริมาณน้ำมันผิดปรกติ หรือมีการปรับแต่งปั๊มดีเซลให้จ่ายน้ำมันมาก
· หัวฉีดผิดปรกติ จ่ายน้ำมันไม่เป็นฝอยละเอียด มีค่าแรงดันต่ำกว่ามาตรฐาน หรือมีการปรับค่าแรงดันไม่ถูกต้อง
· เครื่องยนต์ไม่มีกำลัง ทำให้ต้องใช้เกียร์ต่ำ ส่งผลให้ใช้เครื่องยนต์รอบสูง มำให้เครื่องยนต์สึกหรอสูงด้วย
4) ควันไอเสียมีสีขาว = ควันขาว เกิดจากอุณหภูมิที่ถูกอัดในห้องเผาไหม้มีต่ำเกินไป เชื้อเพลิงที่ถูกฉีดออกมาจากหัวฉีดจะระเหยกลายเป็นไอแต่เผาไม่หมด จึงถูกขับออกมาทางท่อไอเสีย หรือมีส่วนผสมของน้ำมันเครื่องปะปนอยู่
7. ทำหน้าที่หัวฉีด ได้แก่ข้อใด
1) จุดระเบิดในห้องเผาไหม้
2) ฉีดน้ำมันให้เป็นฝอยละอองในห้องเผาไหม้
3) สร้างแรงดันให้แก่น้ำมันเชื้อเพลิง
4) สร้างแรงดันไฟฟ้าให้แก่ระบบ
เฉลย ข้อ 2
แนวความคิด
หัวฉีด = มีหน้าที่ฉีด น้ำมันให้เป็นฝอยละเอียด เข้าห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ ละอองของน้ำมันดีเซลที่ละเอียดจะสามารถคลุกเคล้ากับอากาศได้ดี ทำให้น้ำมันถูกเผาไหม้ได้หมด ไม่มีเขม่าตกค้าง เครื่องยนต์ที่มีอายุการใช้งานมานาน จะเกิดคราบสกปรกที่หัวฉีด การฉีดของหัวฉีดไม่เป็นฝอยละเอียด แรงดันฉีดต่ำกว่ามาตรฐานหรือ หัวฉีดแต่ละตัวจ่ายน้ำมันไม่เท่ากัน มีผลให้น้ำมันเผาไหม้ไม่หมด เครื่องยนต์ไม่มีกำลัง กินน้ำมันผิดปกติ