ประยุกต์ใช้ โพสล่าสุด โพสสำคัญ เครื่องมือ สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
หัวข้อ : แนวข้อสอบนักวิชาการเงินและบัญชี  สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
admin ออฟไลน์
ระดับ: ผู้ดูแลระบบ
รายละเอียดผู้ใช้ 

แนวข้อสอบนักวิชาการเงินและบัญชี  สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ

แชร์กระทู้นี้

1. การบัญชี หมายถึง

(1) การจัดทำบัญชีรับจ่ายเงินสด                    

(2) การจัดหาข้อมูลทางการเงินของกิจการค้า

 (3) การจดบันทึก รวบรวม และสรุปผลข้อมูลทางการเงิน   

(4) การจดบันทึก การจำแนก การสรุปผล และการรายงานเกี่ยวกับการเงิน โดยใช้หน่วยเงินตรา รวมทั้ง การแปลความหมายของผลการปฏิบัติ        

 (5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 4    การบัญชี (Accounting) หมายถึง การจดบันทึกรายการหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเงินไว้ในรูปของเงินตรา จัดแยกหมวดหมู่ของรายการที่บันทึก สรุปผล และวิเคราะห์ความหมายของรายการที่ได้จดบันทึกไว้ โดยจัดทำในรูปของรายงานการเงิน

2. งบดุลของกิจการค้าจะแสดงถึง

(1) ผลการดำเนินงานในงวดหนึ่ง ๆ ของกิจการค้า

(2) ฐานะการเงินของกิจการค้า ณ วันใดวันหนึ่ง

(3) สินทรัพย์ หนี้สิน และทุนในรอบระยะเวลาหนึ่ง ๆ ของกิจการค้า

(4) ส่วนของเจ้าของ ณ วันใดวันหนึ่ง                            

(5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 2 งบดุล (Balance Sheet) คือ งบที่แสดงฐานะของกิจการ ณ วันใดวันหนึ่งว่า กิจการมี สินทรัพย์ หนี้สิน และทุนจำนวนเท่าใด

3. งบกำไรขาดทุนของกิจการค้า แสดงถึง

(1) ผลการดำเนินงานในรอบระยะเวลาการดำเนินงานหนึ่ง ๆ ของกิจการค้า

(2) ฐานะการเงินของกิจการค้า ณ วันใดวันหนึ่ง

(3) ผลการดำเนินงานกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิ ณ วันสิ้นปี

(4) การเปรียบเทียบระหว่างรายได้กับค่าใช้จ่ายในแต่ละปี       

(5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1    งบกำไรขาดทุน (Income Statement) คือ งบที่แสดงผลการดำเนินงานของกิจการ ณ งวดบัญชีหนึ่ง ๆ ว่ากิจการมีรายได้และค่าใช้จ่ายเท่าไร ถ้ารายได้มากกว่าค่าใช้จ่ายผลต่างคือกำไร

4. กิจการหนึ่งมีสินทรัพย์ 100,000 บาท และมีส่วนของเจ้าของ 60,000 บาท กิจการมีหนี้สินเท่าใด

(1) 160,000 บาท                                                 (2) 100,000 บาท

(3) 60,000 บาท                                                    (4) 40,000 บาท

(5) ผิดทุกข้อ

ตอบ 4 จากสมการบัชี

สินทรัพย์รวม = หนี้สินรวม + ทุน (ส่วนของเจ้าของ)

100,000 = 40,000 + 60,000

5. สมการบัญชีที่ถูกต้อง คือ

 (1) สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ

(2) สินทรัพย์ค่าใช้จ่าย = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ + รายได้

(3) สินทรัพย์ + หนี้สิน = ส่วนของเจ้าของ

 (4) ถูกทั้งข้อ 1 และข้อ 3

 (5) ถูกทุกข้อ

ตอบ 1

6. เมื่อเจ้าของนำสินทรัพย์มาลงทุนจะมีผลกระทบต่อสมการบัญชีคือ

(1) ทำให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นและส่วนของเจ้าของเพิ่มขึ้น

(2) ทำให้สินทรัพย์ลดลงและส่วนของเจ้าของเพิ่มขึ้น

 (3) ทำให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นและหนี้สินลดลง

(4) ทำให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นและส่วนของเจ้าของลดลง

(5) ทำให้สินทรัพย์ลดลงและส่วนของเจ้าของลดลง

ตอบ 1 การบันทึกรายการบัชีเมื่อเจ้าของกิจการนำทรัพย์สินมาลงุน

เดบิท บัญชีประเภทสินทรัพย์ xx สินทรัพย์เพิ่ม

เครดิต บัญชีประเภททุน xx ุนเพิ่ม

7. เมื่อซื้อสินทรัพย์เป็นเงินเชื่อ จะมีผลกระทบต่อสมการบัญชีคือ

(1) ทำให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นและส่วนของเจ้าของลดลง               

(2) ทำให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นและหนี้สินเพิ่มขึ้น

(3) ทำให้หนี้สินเพิ่มขึ้นและหนี้สินลดลง

(4) ทำให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นและส่วนของเจ้าของเพิ่มขึ้น (5) ทำให้สินทรัพย์เพิ่มขึ้นและสินทรัพย์ลดลง

ตอบ 2 การบันทึกรายการบัญชีเมื่อซื้อสินทรัพย์เป็นเงินเชื่อ

เดบิท บัญชีประเภทสินทรัพย์ xx สินทรัพย์เพิ่ม

เครดิต บัญชีประเภทหนี้สิน xx หนี้สินเพิ่ม

8. เมื่อจ่ายชำระหนี้สิน จะมีผลกระทบต่อสมการบัญชีคือ

 (1) ทำให้สินทรัพย์ลดลงและหนี้สินลดลง

 (2) ทำให้หนี้สินลดลงและส่วนของเจ้าของลดลง

 (3) ทำให้สินทรัพย์ลดลงและส่วนของเจ้าของลดลง

(4) ทำให้หนี้สินลดลงและทรัพย์สินเพิ่มขึ้น

(5) ทำให้เจ้าหนี้ลดลงและเงินสดเพิ่มขึ้น

ตอบ 1 การบันทึกรายการบัญชีเมื่อจ่ายชำระหนี้สิน

เดบิท บัญชีประเภทหนี้สิน xx หนี้สินลด

เครดิต บัญชีประเภทสินทรัพย์ xx สินทรัพย์ลด

9. เมื่อเก็บเงินจากลูกหนี้ จะมีผลกระทบต่อสมการบัญชีคือ

(1) ทำให้เงินสดเพิ่มขึ้นและหนี้สินลดลง

(2) ทำให้สินทรัพย์เพิ่มและสินทรัพย์ลดลง

(3) ทำให้สินทรัพย์เพิ่มและส่วนของเจ้าของเพิ่มขึ้น

(4) ทำให้สินทรัพย์เพิ่มและส่วนของเจ้าของลดลง

(5) ทำให้เงินสดเพิ่มขึ้นและเจ้าหนี้ลดลง

ตอบ 2 การบันทึกรายการบัญชีเมื่อเก็บเงินจากูกหนี้ 

เดบิท บัญชีประเภทสินทรัพย์ xx สินทรัพย์เพิ่ม

เครดิต บัญชีประเภทสินทรัพย์ xx สินทรัพย์ลด

10. หลักการของระบบบัญชีคู่คือ

(1) การจดบันทึกรายการค้าลงในสมุดรายการขั้นต้น

 (2) การจดบันทึกรายการค้าลงในบัญชีแยกประเภท

(3) การจดบันทึกรายการค้าทุกรายการจะต้องบันทึกในบัญชีไม่น้อยกว่าสองบัญชีด้วยจำนวนเงินด้านเดบิท และเครดิตเท่ากัน

(4) การจดบันทึกรายการค้าต้องบันทึกทั้งสองด้าน

คือด้านเดบิทและด้านเครดิต 

 (5) ถูกทั้งข้อ 1 และข้อ 2

ตอบ 3 หลักการของระบบบัญชีคู่ (Double – Entry Accounting) หมายถึง เมื่อมีรายการทางการค้าเกิดขึ้นทุกรายการต้องนำมาบันทึกไว้ในบัญชีสองด้าน คือ ทางด้านเดบิทและทางด้านเครดิต ด้วยจำนวนเงินที่เท่ากันทั้งสองด้าน แต่จำนวนบัญชีที่ลงนั้นไม่จำเป็นต้องเท่ากัน กล่าวคือ อาจบันทึกทางด้านเดบิทเพียงบัญชีเดียว แต่บันทึกทางด้านเครดิตสองหรือสามบัญชีก็ได้

11. กิจการจะบันทึกรายการทางด้านเดบิทเมื่อใด

(1) สินทรัพย์เพิ่ม, ค่าใช้จ่ายลด, หนี้สินและทุนลด

(2) สินทรัพย์และค่าใช้จ่ายเพิ่ม ส่วนหนี้สิน ทุนและรายได้ลด

(3) สินทรัพย์และรายได้เพิ่ม ส่วนหนี้สิน ทุนและค่าใช้จ่ายลด

(4) สินทรัพย์และหนี้สินเพิ่ม ส่วนทุนและรายได้ ค่าใช้จ่ายลด

(5) ไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง

ตอบ 2 เดบิท (Debit) คือ รายการที่ได้บันทึกไว้ทางด้านซ้ายมือของบัญชี ซึ่งถ้าเป็นบัญชีประเภท หนี้สิน ทุน และรายได้ จะทำให้มียอดลดลง แต่ถ้าเป็นบัญชีประเภทสินทรัพย์และค่าใช้จ่าย จะทำให้มียอดเพิ่มขึ้น

จำหน่ายเอกสารแนวข้อสอบนักวิชาการเงินและบัญชี  สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ  ใหม่ล่าสุด
รวมทุกอย่างที่ออกข้อสอบ รวมแนวข้อสอบเก่าเด็ดๆๆ  และข้อสอบที่ออกบ่อยมาก  

      ส่งทางอีเมล์เป็นไฟเอกสาร
สามารถนำไปปริ้นเพื่นอ่านได้เลย  ในราคาเพียงชุดละ   399 บาท
กรุณาชำระค่าสินค้าและบริการ
เลขที่บัญชี 491-2-00428-2 ธ.กสิกรไทย

 บิ๊กซีขอนแก่
decho pragay  ออมทรัพย์
โอนเงินแล้วแจ้งที่  decho.by@hotmail.com

สนใจสั่งซื้อมาที่  โทร 085-0127724

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

จำหน่ายเอกสารแนวข้อสอบรับราชการ   085-0127724
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้
กด "Ctrl+Enter" เพื่อตั้งกระทู้ได้