sayanus |
2011-08-23 18:09 |
ขอแนวข้อสอบพนักงานคดีปกครองครับ
สรุป วิชากฎหมายปกครอง เบื้องต้น
กฎหมายปกครอง เป็น กฎหมายมหาชน กฎหมายมหาชน เป็น กฎหมายกฎหมายที่กำหนดสถานะและความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ หน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกับเอกชน ในฐานนะที่รัฐหรือหน่วยงานของรัฐเป็นผู้ปกครองมีอำนาจเหนือเอกชน หรือระหว่างรัฐ หน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วยกันเอง
กฎหมายปกครอง จึงเป็น กฎหมายมหาชน ที่วางหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดระเบียบบริหารของรัฐ การดำเนินกิจกรรมของฝ่ายปกครองในการจัดบริการสารธารณะ และวางหลักความเกี่ยวพันในทางปกครองระหว่างฝ่ายปกครองกับเอกชน และฝ่ายปกครองด้วยกันเอง รวมทั้งกำหนดสถานะและการกระทำทางปกครอง
ในระบบการปกครองประเทศแบ่งองค์กรที่ใช้อำนาจเป็น 3 ฝ่าย
- ฝ่ายนิติบัญญัติ - ฝ่ายบริหาร - ฝ่ายตุลาการ ฝ่ายปกครองเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในฝ่ายบริหาร งานของฝ่ายบริหารแยกเป็น 2 ส่วน คือ
1. งานทางการเมือง มีพระมหากษัตริย์ใช้อำนาจผ่านทางคณะรัฐมนตรีซึ่งเป็นรัฐบาล ทำหน้าที่กำหนดนโยบายในการใช้ ข้อบังคับกฎหมายต่างๆ 2. งานทางปกครอง เป็นส่วนที่เรียกว่า ราชการประจำ มีหน้าที่เป็นผู้ปฏิบัติตามนโยบายที่ฝ่ายบริหารในส่วนที่เป็นการเมืองกำหนดขึ้น คือ - ราชการส่วนกลาง คือ กระทรวง ทบวง กรม - ราชการส่วนภูมิภาค คือ จังหวัด อำเภอ - ราชการส่วนท้องถิ่น มี 2 รูปแบบ 1. รูปแบบทั่วไป คือ องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาล
2. รูปแบบพิเศษ คือ กรุงเทพมหานคร พัทยา
- รัฐวิสาหกิจ
- องค์กรอิสระ เป็นองค์กรของรัฐที่ไม่ใช่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ เป็นองค์กรที่อิสระจากการควบคุมของฝ่ายบริหาร(รัฐบาล)โดยตรง เนื่องจากภารกิจของหน่วยงาน เช่นธนาคารแห่งประเทศไทย
- คณะกรรมการต่างๆ
แนวคิดพื้นฐานของกฎหมายปกครอง คือ ต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ
1. รัฐโดยองค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นผู้ดูแลรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมของคนหมู่มากในสังคมหรือประโยชน์สาธารณะ 2. ในกรณีที่ประโยชน์ส่วนตัวของเอกชนสอดคล้องกับประโยชน์ส่วนรวมหรือประโยชน์สาธารณะ รัฐก็ใช้นิติสัมพันธ์ตามกฎหมายเอกชนได้ 3. ในกรณีที่ประโยชน์ส่วนตัวของเอกชนไม่สอดคล้องกับประโยชน์สาธารณะจะต้องให้ประโยชน์สาธารณะอยู่เหนือประโยชน์ส่วนตัวของเอกชน 4. ถ้าเอกชนไม่ยินยอมที่จะสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อประโยชน์สาธารณะ ก็จะต้องให้รัฐโดยองค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีอำนาจบังคับเอกชนเพื่อประโยชน์สาธารณะได้ กิจกรรมของฝ่ายปกครอง แบ่งเป็น
การกระทำทางแพ่ง คือ สัญญาทางแพ่ง เช่นองค์กรของรัฐซื้อคอมพิวเตอร์ 2. การกระทำทางปกครอง คือ ผลิตผลของการใช้อำนาจรัฐตามกฎหมายขององค์กรหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐฝ่ายปกครอง การกระทำทางปกครอง แบ่งเป็น
1. นิติกรรมทางปกครอง 2. ปฏิบัติการทางปกครอง นิติกรรมทางปกครอง
1. นิติกรรมฝ่ายเดียว คือ กฎ คำสั่งทางปกครอง
2. นิติกรรมหลายฝ่าย คือ สัญญาทางปกครอง
ลักษณะของนิติกรรมทางปกครอง
1. เป็นการกระทำขององค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐฝ่ายปกครอง ที่กระทำโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติ เพื่อแสดง เจตนาให้ปรากฏต่อบุคคล
2. เจตนาที่แสดงออกมานั้น ต้องมุ่งหมายที่จะให้เกิดผลทางกฎหมายอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้น เช่น ถ้าหน่วยงานราชการมีหนังสือ เตือน ให้คุณมาต่อใบอนุญาต แบบนี้ไม่เป็นนิติกรรมทางปกครอง เพราะไม่ได้มุ่งให้เกิดผลทางกฎหมาย คุณจะต่อหรือไม่ต่อก็เรื่องของคุณ 3. ผลทางกฎหมายที่มุ่งหมายให้เกิดขึ้น คือ การสร้างนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคล 2 ฝ่าย โดยฝ่ายหนึ่งมีอำนาจ หรือสิทธิเรียกร้องให้อีกฝ่ายหนึ่งกระทำ หรืองดเว้นการกระทำอย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งมีผลเป็นการก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน ระงับ หรือมีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าที่ของอีกฝ่ายหนึ่ง เช่น ถ้าอธิบดีกรมการปกครองอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติข้าราชการพลเรือน 2535 ออกคำสั่งแต่งตั้งบุคคลให้เป็นปลัดอำเภอ เท่านี้ก็เกิดนิติสัมพันธ์แล้ว ระหว่างอธิบดีกรมการปกครองกับบุคคลที่จะได้รับแต่งตั้งเป็นปลัดอำเภอ ถือว่าเป็นการก่อให้เกิดสิทธิและหน้าที่ต่อกัน หรือ ถ้าคู่กรณีเดิมปลัดอำเภอทำความผิดร้ายแรง อธิบดีกรมการปกครองไล่ออก ผลทางกฎหมาย คือ ระงับสิ้นสุดสิทธิและหน้าที่ต่อกัน ถึงแม้จะเป็นการระงับ แต่ผลทางกฎหมายก็เกิดขึ้น คือ สิทธิและหน้าที่ของอีกฝ่ายสิ้นสุดลง 4. นิติสัมพันธ์ดังกล่าวเกิดขึ้นโดยการแสดงเจตนาฝ่ายเดียวขององค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐฝ่ายปกครอง โดยที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่จำเป็นต้องให้ความยินยอม ถ้าเมื่อไหร่ที่มีการแสดงเจตนาทั้ง 2 ฝ่าย เมื่อนั้นจะไม่ใช่นิติกรรมทางปกครอง แต่จะแปรสภาพเป็น สัญญาทางปกครอง เช่น ก.ไปยื่นคำขอพกอาวุธปืน ในทางปกครองถือว่าการยื่นคำขอไม่ใช่คำเสนอ และเมื่อฝ่ายปกครองอนุญาตก็ไม่ใช่คำสนอง การที่มีขั้นตอนยื่นคำขอเข้าไปก่อน เรียกว่า เงื่อนไขความสมบูรณ์ของนิติกรรมทางปกครอง เป็นเงื่อนไขว่าถ้าไม่ทำตามขั้นตอนเช่นนี้นิติกรรมทางปกครองก็ไม่สมบูรณ์เมื่อขาดลักษณะใดลักษณะหนึ่งของนิติกรรมทางปกครองก็จะกลายเป็นปฏิบัติการทางปกครอง ประเภทของนิติกรรมทางปกครอง
กฎ เป็นบทบัญญัติที่มีผลเป็นการบังคับเป็นการทั่วไป โดยไม่มุ่งหมายให้ใช้บังคับแก่กรณีใดหรือบุคคลใดเป็นการเฉพาะ เช่นพระราชบัญญัติ กฎกระทรวง ประกาศกระทรวง ข้อบัญญัติท้องถิ่น ระเบียบ ข้อบังคับ
คำสั่งทางปกครอง เป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ที่มีผลเป็นการสร้างนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคล ในอันที่จะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน ระงับ หรือมีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการถาวรหรือชั่วคราว ที่มีผลบังคับแก่กรณีใดหรือบุคคลใดเป็นการเฉพาะ
เงื่อนไขความสมบูรณ์ของนิติกรรมทางปกครอง
1. อำนาจ เจ้าหน้าที่ที่ทำนิติกรรมต้องมีอำนาจ เป็นอำนาจที่กฎหมายให้มา 2. แบบและขั้นตอนที่เป็นสาระสำคัญของการทำนิติกรรมทางปกครอง เพราะถ้าไม่ใช่สาระสำคัญก็จะไม่กระทบต่อความสมบูรณ์ของนิติกรรมทางปกครอง เช่น คำพิพากษาฎีกาที่ 3618/2535 3. วัตถุประสงค์ นิติกรรมทางปกครองต้องมีวัตถุประสงค์ที่เป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้อำนาจรัฐต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ การกระทำของฝ่ายปกครองก็ต้องไม่ขัดต่อวัตถุประสงค์ที่กฎหมายเฉพาะกำหนดถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย 4. ไม่บกพร่องเรื่องเจตนา จะต้องไม่เกิดจากการถูกฉ้อฉล ไม่สำคัญผิดหรือไม่ถูกข่มขู่ เช่น ผู้ขอสัมปทานร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับล่างบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพพื้นที่ หัวหน้าหลงเชื่อก็สั่งการไป ก็เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ 5. เงื่อนไขอื่นๆ เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด เช่น พระราชบัญญัติสถานบริการ มาตรา 21 วรรค 2 ว่าการสั่งพักใบอนุญาตสั่งได้ครั้งละ 30 วัน เพราะฉะนั้นจะสั่งพักใบอนุญาตในระยะเวลาที่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไม่ได้ กิจการที่ฝ่ายปกครองที่เป็นการกระทำทางปกครอง มี 2 ด้าน
1. กิจการในทางควบคุม เป็นการวางกฎเกณฑ์และบังคับให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์เพื่อความมั่นคง เพื่อการจัดการเรียบร้อย เป็นการที่ฝ่ายปกครองใช้อำนาจฝ่ายเดียวที่จะกำหนดให้ฝ่ายเอกชนต้องปฏิบัติตาม และบังคับให้ฝ่ายเอกชนที่ฝ่าฝืนต้องปฏิบัติตาม เช่น เจ้าพนักงานท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคารฯ มีอำนาจออกระเบียบ ห้ามสร้างอาคารสูงเท่านั้นเท่านี้ เมื่อมีการฝ่าฝืนเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่มีอำนาจก็บังคับ โดยเข้ารื้อถอนอาคาร การที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคารฯ ออกระเบียบ เป็นนิติกรรมทางปกครองประเภทกฎ เพราะมีผลบังคับเป็นการทั่วไป การที่เจ้าพนักงานไปรื้ออาคารที่สร้างฝ่าฝืนเป็นการปฏิบัติการทางปกครอง 2. กิจการในทางบริการ เช่น - กิจกรรมเพื่อความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน เช่น การป้องกันประเทศ - กิจการเพื่อความสงบเรียบร้อย เช่น การสาธารณสุข การศึกษา - กิจการเพื่อความสะดวกสบายของประชาชน เช่น ไฟฟ้า ประปา ถนน โทรศัพท์ สัญญาจ้างก่อสร้างถนน วางท่อประปา เป็นสาธารณูปโภคอย่างหนึ่ง และเป็นไปเพื่อสาธารณประโยชน์
แนวข้อสอบ วิชากฎหมายปกครอง เบื้องต้น ข้อ 1. หลัก “นิติรัฐ” มีสาระสำคัญอย่างไร เกี่ยวข้องกับหลัก”การบริการสาธารณะ”หรือไม่ จงอธิบายเปรียบเทียบ
1. แนวคำตอบ หลัก “นิติรัฐ” มีสาระสำคัญ 2 ประการ 1. องค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารจะกระทำการใดที่กระทบกระเทือนต่อสิทธิหรือเสรีภาพของประชาชนได้ต่อเมื่อมีกฎหมายให้อำนาจ.... 2. สภาพบังคับของนิติรัฐ นั้นย่อมอาจถูกตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมายของการกระทำของฝ่ายปกครอง โดยอำนาจตุลาการ หลักการพื้นฐานของกฎหมายปกครองคือ หลักการเรื่องการจัดการและการดำเนินกิจกรรมของรัฐเพื่อประโยชน์สาธารณะ ดังนั้น “การบริการสาธารณะ” จึงเป็นหลักการของกฎหมายปกครอง การบริการสาธารณะ เป็นกิจกรรมที่นิติบุคคลตามกฎหมายมหาชนมีหน้าที่จัดทำหรือจัดหา โดยอาจดำเนินการเองหรือมอบให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการแทนได้ นอกจากนี้เป็นกิจกรรมที่มีวัตถูประสงค์เพื่อประโยชน์สาธารณะและตอบสนองความต้องการของประชาชน.... การบริการสาธารณะจะต้องมีกฎหมายรองรับและมีการตรวจสอบและถ่วงดุลโดยอำนาจตุลาการโดยหลักนิติรัฐเช่นกัน
ข้อ 2. จงอธิบายเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง ก. “การปฏิบัติราชการแทน”และ “การรักษาราชการแทน” ข. “กฎ”และ “คำสั่งทางปกครอง”
2. แนวคำตอบ ก. “การปฏิบัติราชการแทน” เป็นกรณีที่ผู้ดำรงตำแหน่งยังอยู่ในตำแหน่ง เช่น ในกรมหนึ่งมีอธิบดีอยู่แต่ในการปฎิบัติภารกิจอาจมีมากมาย ดังนั้น ในสาระสำคัญของการปฏิบัติหน้าที่ควรดำเนินภารกิจเองแต่ถ้าเป็นเรื่องที่มีระเบียบปฏิบัตชัดเจนอยู่แล้วและไม่ใช่สาระสำคัญของการปฏิบัติหน้าที่อาจมอบให้รองฯ ปฏิบัติราชการแทนก็ได้ โดยไม่ต้องเสนอเรื่องขึ้นมาเพื่อขอความเห็นชอบหรือให้อธิบดีเป็นผู้สั่งการเอง “การรักษาราชการแทน” มีข้อพิจารณา 2 กรณี กรณีที่ 1 ตำแหน่งของผู้ดำรงตำแหน่งว่างลง เช่น ตำแหน่งอธิบดีว่างลง เช่น กรณีเสียชีวิตหรือถูกโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งอื่นกะทันหันและยังมิได้มีการแต่งตั้งบุคคลหนึ่งบุคคลหนึ่งบุคคลใดให้มาดำรงตำแหน่งแทน เช่นนี้ จำเป็นต้องมีผู้รักษาราชการแทน กรณีที่ 2 ตำแหน่งของผู้ดำรงตำแหน่งมิได้ว่างลง แต่ผู้ดำรงตำแหน่งมิอาจปฏิบัติราชการได้เช่นไปราชการต่างประเทศ ลาป่วยหรือมีเหตุขัดข้องประการอื่นไม่สามารถปฏิบัติราชการได้ต้องมีเจ้าพนักงานผู้อื่นมาปฏิบัติหน้าที่แทนเรียกว่า การรักษาราชการแทน
ข. “กฎ”และ “คำสั่งทางปกครอง” กฎ ตามพ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง นั้น กฎ หมายความว่า พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ประการศกระทรวง ข้อบัญญัติท้องถิ่น ระเบียบข้อบังคับหรือบทบัญญัติอื่นที่มีผลบังคับเป็นการทั่วไปโดยไม่มุ่งหมายให้ใช้บังคับแก่กฎใดหรือบุคคลใดโดยเฉพาะ กฎ คือนิติกรรมทางปกครองที่มีผลบังคับเป็นการทั่วไปซึ่งมีเกณฑ์ในการพิจารณาที่สำคัญ 2 กรณีดังนี้ กรณีแรก บุคคลที่ถูกกฏบังคับให้กระทำการหรือห้ามมิให้กระทำการ ต้องเป็นบุคคลที่ถูกนิยามไว้เป็นประเภท เช่น กฎ ก.พ. กล่าวถึงข้าราชการพลเรือนโดยทั่วไป กรณีที่สอง บุคคลที่ถูกกฏบังคับให้กระทำการหรือห้ามมิให้บุคคลกระทำการ หรือกรณีกฎอนุญาตให้บุคคลกระทำการ ต้องเป็นกรณีที่ถูกกำหนดไว้อย่างเป็นนามธรรม ถูกกำหนดไว้อย่างเป็นการทั่วไป โดยมิได้มีการเจาะจงตัวบุคคล มิได้เจาะจงตัวพื้นที่หรือเวลาแต่อย่างใด เช่น กฏจราจร “คำสั่งทางปกครอง” ตามพ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง หมายความว่า การใช้อำนาจทางกฎหมายของเจ้าหน้าที่ ที่มีผลเป็นการสร้างนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคลในอันที่จะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวนระงับ หรือมีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการถาวรหรือชั่วคราว เช่น การสั่งการ การอนุญาต การอนุมัติ.....แต่ไม่หมายความรวมถึงกฎ คำสั่งทางปกครองนั้น ต้องมีลักษณะ 5 ประการดังนี้ 1. เป็นการกระทำโดยองค์กรของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐฝ่ายปกครอง 2. เป็นการกระทำที่ใช้อำนาจปกครองตามกฎหมาย 3. เป็นนิติกรรมทางปกครอง กล่าวคือมีการแสดงเจตนาของฝ่ายปกครอง 4. มุ่งใช้บังคับแก่กรณีหนึ่งกรณีใด หรือมีการเจาะจงตัวบุคคลใดเป็นการเฉพาะ 5. ต้องเป็นนิติกรรมทางปกครองที่มีผลภายนอกโดยตรง
ดาวโหลดที่นี่
|
|