1.ระเบียบระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ.๒๕๔๔ นี้จะใช้บังคับได้ต้องพ้นกำหนดกี่วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ก. 30 วัน ข. 60 วัน ค. 90 วัน ง. 120 วัน ตอบ ง. 120 วัน (ระเบียบความลับฯข้อ 2) ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกวา "ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ.๒๕๔๔ ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยยี่สิบวัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป ข้อ ๓ บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และคำสั่งอื่นใด ในสวนที่กำหนดไว้แล้วในระเบียบนี้ หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน ข้อ ๔ ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามระเบียบนี้ 2. ข้อมูลข่าวสารลับ หมายความว่าอะไร? ก. ข้อมูลข่าวสารตามมาตรา ๑๔ หรือมาตรา ๑๕ ที่มีคำสั่งไม่ให้เปิดเผยและอยู่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแลของหน่วยงานของรัฐ ข. เรื่องที่เกี่ยวกับการดำเนินงานของรัฐ หรือที่เกี่ยวกับเอกชน ซึ่งมีการกำหนดให้มีชั้นวามลับเป็น ชั้นลับ ชั้นลับมาก หรือ ชั้นลับที่สุด ค. คำนึงถึงการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐและประโยชน์แห่งรัฐประกอบกัน ง. ถูกหมด ตอบ ง.ถูกหมด ( ข้อ 5 ) 3. การดำเนินงานของรัฐที่เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะหรือประโยชน์ของเอกชนประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความมั่นคงของรัฐที่เกี่ยวกับการเมืองภายในประเทศหรือ ระหว่างประเทศ การป้องกันประเทศ เศรษฐกิจ สังคม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีการพลังงานและสิ่งแวดล้อม” ข้อความดังกล่าวเรียกว่า ? ก. ประโยชนแหงรัฐ ข. ผลประโยชน์ของรัฐ ค. อรรถประโยชน์ของรัฐ ง. ประโยชน์ของรัฐ ตอบ. ก. ประโยชน์แหงรัฐ (ระเบียบความลับ ข้อ 5 วรรค 2) 4. ข้อใดไม่ใช่หัวหน้าหน่วยงานของรัฐตามความหมายระเบียบนี้? ก. ผู้ว่าราชการจังหวัด ข. ประธานกรรมการบริหารองค์การบริหารสวนตำบล ค. ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ง. นายกสมาคมผู้ค้าข้าวแห่งประเทศไทย ตอบ ง. นายกสมาคมผู้ค้าข้าวแห่งประเทศไทย (ระเบียบความลับ ข้อ 5) 5. ระยะเวลาเท่าใดที่ให้นายกรัฐมนตรีจัดให้มีการทบทวนการปฏิบัติตามระเบียบนี้และพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบนี้ให้เหมาะสม? ก. ทุก หก เดือนเป็นอย่างน้อย ข. ทุก สี่ปีเป็นอย่างน้อย ค. ทุกห้าปีเป็นอย่างน้อย ง. ทุกหกปีเป็นอย่างน้อย ตอบ ค.ทุกห้าปีเป็นอย่างน้อย (ระเบียบความลับ ข้อ 6) ข้อ ๕ ในระเบียบนี้ "ข้อมูลขาวสารลับ" หมายความว่า ข้อมูลข่าวสารตามมาตรา ๑๔ หรือมาตรา ๑๕ ที่มี คำ สั่งไม่ให้เป็ดเผยและอยู่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแลของหน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการดำเนินงานของรัฐ หรือที่เกี่ยวกับเอกชน ซึ่งมีการกำหนดให้มีชั้นวามลับเป็น ชั้นลับ ชั้นลับมาก หรือ ชั้นลับที่สุด ตามระเบียบนี้โดยคำนึงถึงการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐและประโยชน์ แห่งรัฐประกอบกัน " ประโยชน์แห่งรัฐ " หมายความว่า การดำเนินงานของรัฐที่เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะ หรือประโยชน์ของเอกชนประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความมั่นคงของรัฐที่เกี่ยวกับการเมือง ภายในประเทศหรือระหว่างประเทศ การป้องกันประเทศ เศรษฐกิจ สังคม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีการพลังงานและสิ่งแวดล้อม " หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ " หมายความว่า (๑)หัวหน้าส่วนราชการที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล สำหรับส่วนราชการในสังกัดกระทรวงกลาโหมให้หมายความรวมถึงหัวหน้าส่วนราชการ ที่ขึ้นตรงต่อสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กรม ราชองครักษ์ กองบัญชาการทหารสูงสุด กองทัพบก กองเรือ และกองทัพอากาศ (๒) ผู้ว่าราชการจังหวัด สำหรับราชการส่วนภูมิภาค (๓) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายกเทศมนตรี ประธาน สภาตำบล ประธานกรรมการบริหารองค์การบริหารส่วนตำบล นายกเมืองพัทยา หรือตำแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน แล้วแต่กรณี สำหรับราชการส่วนท้องถิ่น (๔) ผู้บริหารกิจการของรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐ สำหรับงานของรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ " การปรับชั้นความลับ " หมายความวา การลดหรือเพิ่มชั้นความลับของข้อมูลข่าวสารลับ และให้หมายความรวมถึงการยกเลิกชั้นความลับของข้อมูลข่าวสารลับนั้นด้วย ข้อ ๖ ทุกห้าปีเป็นอย่างน้อย ให้นายกรัฐมนตรีจัดให้มีการทบทวนการปฏิบัติตาม ระเบียบนี้และพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบนี้ให้เหมาะสม
6. ข้อใดผิดในกรณีที่สามารถมอบอำนาจได้ตามกฎหมายต้องปฏิบัติอย่างไร? ก. ผู้มีหน้าที่ ต้องรักษาข้อมูลข่าวสารลับให้ปลอดภัย ข. การให้บุคคลใดเข้าถึงข้อมูลข่าวสารลับ หรือเปิดเผยข้อมูลข่าวสารลับแก่ผู้ใดต้องกระทำโดยระมัดระวัง ในกรณีจำเป็น ค. ให้กำหนดเงื่อนไขในการปฏิบัติให้เหมาะสมแก่กรณีโดยคำนึงถึงการรักษาความลับและประสิทธิภาพในการดำเนินการตามระเบียบนี้ ง. ไม่สามารถมอบหมายหน้าที่รักษาข้อมูลข่าวสารลับได้ ตอบ ง. ไม่สามารถมอบหมายหน้าที่รักษาข้อมูลข่าวสารลับได้ ( ระเบียบการรักษาความลับฯ ข้อ 7 ) ข้อ ๗ ให้หัวหนาหน่วยงานของรัฐมีหนาที่รักษาข้อมูลข่าวสารลับในหน่วยงานของตนและ อาจมอบหมายหน้าที่ดังกล่าวได้ตามความจำเป็นให้ผู้ใต้บังคับบัญชาหรือให้แก่ ราชการส่วนภูมิภาค ใน กรณีที่สามารถมอบอำนาจได้ตามกฎหมายผู้มีหนาที่ตามวรรคหนึ่ง ตองรักษาขอมูลขาวสารลับให้ปลอดภัย การให้บุคคลใดเขาถึงขอมูลขาวสารลับ หรือเปิดเผยขอมูลขาวสารลับแก่ผู้ใด ต้องกระทำโดยระมัดระวัง ในกรณีจำเป็น ให้กำหนดเงื่อนไขในการปฏิบัติให้เหมาะสมแก่กรณีโดยคำนึงถึงการรักษาความลับ และประสิทธิภาพในการดำเนินการตามระเบียบนี้ 7.บุคคลใดที่จะเข้าถึงข้อมูลข่าวสารลับในชั้นความลับใดได้ ก. ตองเป็นบุคคลที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายความไว้วางใจ และให้เข้าถึงขอมูลขาวสารลับได้เฉพาะเรื่องที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น ข. เป็นบุคคลที่หัวหน้าหน่วยงานอนุญาตโดยเฉพาะและเข้าอบรมการต่อต้านก่อการร้ายสากลแล้ว ค. ต้องมีทะเบียนประวัติในสำนักข่าวกรองแล้วเท่านั้น ง. เป็นบุคคลที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติ อนุญาตให้รักษาข้อมูลข่าวสารลับเฉพาะเรื่องนั้นแล้วเท่านั้น ตอบ ก. ต้องเป็นบุคคลที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายความไว้วางใจ และให้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารลับได้เฉพาะเรื่องที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น ( ระเบียบการรักษาความลับฯ ข้อ 8 ) ข้อ ๘ บุคคลที่จะเข้าถึงข้อมูลข่าวสารลับในชั้นความลับใด จะต้องเป็นบุคคลที่ ผู้บังคับบัญชามอบหมายความไว้วางใจ และให้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารลับได้เฉพาะเรื่องที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น 8.หน่วยงานใดสามารถตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่ของตนที่เกี่ยวข้องกับชั้นลับได้ ? ก.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ข.สำนักเทคโนโลยีแห่งชาติ ค.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสาร ง.องค์การรักษาความปลอดภัย ตอบ ง.องค์การรักษาความปลอดภัย ( ระเบียบการรักษาความลับฯ ข้อ 9 ) ข้อ ๙ในกรณีที่เห็นเป็นการสมควร หัวหน้าหน่วยงานของรัฐอาจขอให้องค์การรักษาความปลอดภัย ช่วยตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่ของตนที่เกี่ยวข้องกับชั้น ความลับได้ 9. ในการดำเนินงานของคณะกรรมการใด ๆ ถ้าคณะกรรมการมีมติกำหนดชั้นความลับไว้เช่นใด ให้เลขานุการดำเนินการตามนั้นและใครดำเนินการต่อให้ถูกต้องตามระเบียบ ก. เจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่รักษาความลับที่มอบหมาย ข. หัวหน้าหน่วยงานของรัฐเจ้าสังกัดของเลขานุการ ค. หัวหน้าแผนกของงานนั้นๆ ง. องค์การรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ตอบ ข.หัวหน้าหน่วยงานของรัฐเจ้าสังกัดของเลขานุการ ( ระเบียบการรักษาความลับฯ ข้อ 10 ) ข้อ ๑๐ ในการดำเนินงานของคณะกรรมการใด ๆ ถ้าคณะกรรมการมีมติกำหนดชั้นความลับไว้เช่นใด ให้เลขานุการดำเนินการตามนั้นและให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐเจ้าสังกัดของ เลขานุการดำเนินการต่อไปให้ถูกต้องตามระเบียบนี้ด้วย ถ้า คณะกรรมการคณะใดมีฝ่ายเลขานุการซึ่งมิได้เป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ ให้ประธานกรรมการทำหน้าที่เป็นหัวหน้าหน่วยงานของรัฐและให้นำระเบียบนี้มา ใช้บังคับโดยอนุโลม 10.ข้อใดเป็นองค์การรักษาความปลอดภัยฝ่ายทหาร ? ก. สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ข. สำนักสื่อสารและเทคโนโลยีพลังงานทหารบก ค. ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการทหารสูงสุด ง. ศูนย์ปฏิบัติการสื่อสารทหาร กรมเจ้าท่า ตอบ ค.ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการทหารสูงสุด ( ระเบียบการรักษาความลับฯ ข้อ 11 ) ข้อ ๑๑ องค์การรักษาความปลอดภัยตามระเบียบนี้ ได้แก่ (๑) สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นองค์การรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือน (๒) ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการทหารสูงสุด เป็นองค์การรักษาความปลอดภัยฝ่ายทหาร 11.ข้อใดคือ ลับมาก ? ก. TOP SECRET ข. SECRET ค. DISCONFIDENTIAL ง. CONFIDENTIAL ตอบ ข . SECRET ( ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับ ฯ ข้อ 12) 12.ข้อใดคือ ลับที่สุด ? ก. TOP SECRET ข. SECRET ค. DISCONFIDENTIAL ง. CONFIDENTIAL ตอบ ก. TOP SECRET ( ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับ ฯ ข้อ 12) 13.ข้อใดคือ ลับ ? ก. TOP SECRET ข. SECRET ค. DISCONFIDENTIAL ง. CONFIDENTIAL ตอบ ง. CONFIDENTIAL ( ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับ ฯ ข้อ 12) 14.ข้อมูลข่าวสารลับซึ่งหากเปิดเผยทั้งหมดหรือเพียงบางส่วนจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์แห่งรัฐอย่างร้างแรงที่สุด ? ก. TOP SECRET ข . SECRET ค. DISCONFIDENTIAL ง. CONFIDENTIAL ตอบ ก. TOP SECRET ( ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับ ฯ ข้อ 13) 15.ข้อมูลข่าวสารลับซึ่งหากเปิดเผยทั้งหมดหรือเพียงบางส่วนจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์แห่งรัฐ ? ก. TOP SECRET ข . SECRET ค. DISCONFIDENTIAL ง. CONFIDENTIAL ตอบ ง. CONFIDENTIAL ( ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับ ฯ ข้อ 15) ส่วนที่ ๒ ประเภทชั้นความลับ ข้อ ๑๒ ชั้นความลับของข้อมูลข่าวสารลับ แบ่งออกเป็น ๓ ชั้น คือ (๑) ลับที่สุด (TOP SECRET) (๒) ลับมาก (SECRET) (๓) ลับ (CONFIDENTIAL) ข้อ ๑๓ ลับที่สุด หมายความถึง ข้อมูลข่าวสารลับซึ่งหากเปิดเผยทั้งหมดหรือเพียง บางส่วนจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์แห่งรัฐอย่างร้ายแรงที่สุด ข้อ ๑๔ ลับมาก หมายความถึง ข้อมูลข่าวสารลับซึ่งหากเปิดเผยทั้งหมดหรือเพียง บางส่วนจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์แห่งรัฐอย่างร้ายแรง ข้อ ๑๕ ลับ หมายความถึง ข้อมูลข่าวสารลับซึ่งหากเปิดเผยทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์แห่งรัฐ 16. ให้หัวหน้าหน่วยงานมีหน้าที่รับผิดชอบในการกำหนดชั้นความลับ พร้อมทั้งให้ เหตุผลประกอบการกำหนดชั้นความลับของข้อมูลข่าวสารลับนั้นด้วยว่าอย่างไร ? ก. เป็นข้อมูลข่าวสารประเภทใด และเพราะเหตุใด ข . สถานะและเหตุการณ์ขณะนั้นจึงจำเป็นกำหนดชั้นลับ ค.ความสำคัญของความลับแต่ละประเภท ง. ความปลอดภัยของเอกสาร ตอบ ก. เป็นข้อมูลข่าวสารประเภทใด และเพราะเหตุใด ( ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับ ฯ ข้อ 16) ข้อ ๑๖ ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐมีหน้าที่รับผิดชอบในการกำหนดชั้นความลับ พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบการกำหนดชั้นความลับของข้อมูลข่าวสารลับนั้นด้วยว่าเป็นข้อมูลข่าวสาร ประเภทใดและเพราะเหตุใด ในการนี้อาจมอบหมายหน้าที่ดังกล่าวได้ตามความจำเป็นให้ผู้ใต้บังคับบัญชา หรือให้แก่ราชการส่วนภูมิภาค ในกรณีที่สามารถมอบอำนาจได้ตามกฎหมาย 17. ในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ใครสามารถกำหนดชั้นความลับเป็นการชั่วคราวได้ ? ก. เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ข . พนักงานของแต่ละหน่วย ค. ผู้บังคับหมู่ ทุกแผนก ง. เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง . ตอบ ง. เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ( ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับ ฯ ข้อ 17) ข้อ ๑๗ ในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีอำนาจกำหนดชั้นความลับเป็นการชั่วคราวได้และให้ รีบเสนอต่อผู้มีอำนาจกำหนดชั้นความลับเพื่อสั่งการเกี่ยวกับการกำหนดชั้น ความลับต่อไปทันทีการกำหนดชั้นความลับของข้อมูลข่าวสารลับที่มีชั้นความลับ หลายชั้นในเรื่องเดียวกันให้กำหนดชั้นความลับเท่ากับชั้นความลับสูงสุดที่มี อยู่ในข้อมูลข่าวสารลับนั้นในกรณีที่กำหนดให้ข้อมูลข่าวสารลับที่มีชั้นความ ลับต่ำ แต่จำเป็นต้องอ้างอิงข้อความจากข้อมูลข่าวสารที่มีชั้นความลับสูงกว่า ต้องพิจารณาถึงเนื้อหาที่อ้างถึงนั้นว่าจะไม่ทำให้ข้อมูลข่าวสารที่ชั้นความ ลับสูงกว่ารั่วไหล 18. ให้นายทะเบียนจดแจ้งเหตุผลประกอบการกำหนดชั้นความลับของข้อมูล ข่าวสารลับไว้ที่ใด ? ก. ไว้ในตู้นิรภัย ข. ในทะเบียนควบคุมข้อมูลข่าวสารลับ ค. ในบัญชีการกำหนดชั้นความลับ ง. ในแผนกที่มีการกำหนดชั้นความลับ . ตอบ ข . ในทะเบียนควบคุมข้อมูลข่าวสารลับ ( ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับ ฯ ข้อ 18) ข้อ ๑๘ ให้นายทะเบียนจดแจ้งเหตุผลประกอบการกำหนดชั้นความลับของข้อมูล ข่าวสารลับไว้ในทะเบียนควบคุมข้อมูลข่าวสารลับ แต่ถ้าเหตุผลนั้นมีรายละเอียดมากหรือเหตุผลนั้น บาง ส่วนมีชั้นความลับสูงกว่าชั้นความลับของทะเบียนข้อมูลข่าวสารลับให้บันทึก เหตุผลย่อไว้ในทะเบียนควบคุมข้อมูลข่าวสารลับและบันทึกเหตุผลละเอียดหรือ เหตุผลส่วนที่มีชั้นความลับสูงกว่าดังกล่าวแยกออกมาโดยเก็บไว้ระหว่างใบปก ข้อมูลข่าวสารลับกับข้อมูลข่าวสารลับนั้น 19. องค์ประกอบในข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช่ข้อพิจารณาใน การกำหนดให้ข้อมูลข่าวสารลับอยู่ในชั้นความลับใด? ก. ความสำคัญของเนื้อหา ข. แหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสาร ค. ระยะเวลาการเก็บเอกสาร ง. จำนวนบุคคลที่ควรรับทราบ ตอบ ค. ระยะเวลาการเก็บเอกสาร ( ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับ ฯ ข้อ 19) ข้อ ๑๙ การกำหนดให้ข้อมูลข่าวสารลับอยู่ในชั้นความลับใด ให้พิจารณาถึงองค์ประกอบ ต่อไปนี้ เช่น (๑) ความสำคัญของเนื้อหา (๒) แหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสาร (๓) วิธีการนำไปใช้ประโยชน์ (๔) จำนวนบุคคลที่ควรรับทราบ (๕) ผลกระทบหากมีการเปิดเผย (๖) หน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบในฐานะเจ้าของเรื่องหรือผู้อนุมัติ 20. ใน กรณีเป็นการสมควร หัวหน้าหน่วยงานของรัฐจะกำหนดระเบียบการใด เพื่อปฏิบัติเพิ่มเติมจากระเบียบนี้ก็ได้ และถ้าหัวหน้าหน่วยงานของรับเห็นว่าการปฏิบัติตามระเบียบนี้ในเรื่องใดจะก่อ ให้เกิดความยุ่งยากโดยไม่เหมาะสม ควรทำอย่างไร ? ก. ทบทวนใหม่ หากเห็นว่าไม่เหมาะสมต้องขอมติในที่ประชุม ข. กำหนดวิธีการรักษาความลับในเรื่องนั้นด้วยวิธีการอื่นที่มีประสิทธิภาพเท่ากันหรือดีกว่า แทนได้ ค. ยกเลิกภารกิจนั้นๆ ทันที ง. ทำลายข้อมูลใดๆ ที่เป็นหลักฐาน เกรงว่าจะรั่วไหล ตอบ ข. กำหนดวิธีการรักษาความลับในเรื่องนั้นด้วยวิธีการอื่นที่มีประสิทธิภาพเท่ากันหรือดีกว่า แทนได้ ( ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับ ฯ ข้อ 20) ข้อ ๒๐ ในกรณีเป็นการสมควร หัวหน้าหน่วยงานของรัฐจะกำหนดระเบียบการใด เพื่อปฏิบัติเพิ่มเติมจากระเบียบนี้ก็ได้ และถ้าหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเห็นว่า การปฏิบัติตามระเบียบนี้ในเรื่องใด จะ ก่อให้เกิดความยุ่งยากโดยไม่เหมาะสม หัวหน้าหน่วยงานของรัฐจะกำหนดวิธีการรักษาความลับในเรื่องนั้นด้วยวิธีการ อื่นที่มีประสิทธิภาพเท่ากันหรือดีกว่าแทนได้ 21.ข้อใดไม่ถูกต้องในเรื่องการแสดงตัวอักษรตามชั้นความลับ ? ก. ใช้แดง ข.ใช้สีอื่นที่สามารถมองเห็นได้เด่นและชัดเจน ค.ใหญ่กว่าตัวอักษรธรรมดา ง.ต้องขนาดที่กำหนดคือ 35 พอย์ ตอบ ง.ต้องขนาดที่กำหนดคือ 35 พอย์ ( ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับ ฯ ข้อ 21) ส่วนที่ ๒ การแสดงชั้นความลับ ข้อ ๒๑ เครื่องหมายแสดงชั้นความลับให้ใช้ตัวอักษรตามชั้นความลับที่ขนาดใหญ่กว่า ตัวอักษรธรรมดา โดยใช้สีแดงหรือสีอื่นที่สามารถมองเห็นได้เด่นและชัดเจน 22.ข้อมูลข่าวสารที่มีสภาพเป็นเอกสารให้แสดงชั้นความลับอย่างไร ? ก. กลางหน้ากระดาษทั้งด้านบนและด้านล่างของเอกสารหน้าแรก ข. กลางหน้ากระดาษของทุกหน้าเอกสารนั้น ค. กลางหน้ากระดาษทั้งด้านบนและด้านล่างของเอกสารหน้าสุดท้าย ง. กลางหน้ากระดาษทั้งด้านบนและด้านล่างของทุกหน้าเอกสารนั้น ตอบ ง. กลางหน้ากระดาษทั้งด้านบนและด้านล่างของทุกหน้าเอกสารนั้น ( ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับ ฯ ข้อ 22) ข้อ ๒๒ การแสดงชั้นความลับให้ปฏิบัติ ดังนี้ (๑) ข้อมูลข่าวสารที่มีสภาพเป็นเอกสารให้แสดงชั้นความลับที่กลางหน้ากระดาษ ทั้งด้านบนและด้านล่างของทุกหน้าเอกสารนั้น ถ้าเอกสารเข้าปกให้แสดงไว้ที่ด้านนอกของปกหน้า ปกหลังด้วย (๒) ข้อมูลข่าวสารที่มีสภาพเป็นภาพเขียน ภาพถ่าย แผนที่ แผนภูมิ แผนผัง และสำเนาสิ่งของดังกล่าวนั้น ให้แสดงชั้นความลับในลักษณะเดียวกับ (๑) ถ้าเอกสารนั้นม้วนหรือพับได้ให้ แสดงชั้นความลับไว้ให้ปรากฏเห็นได้ขณะที่เอกสารนั้นม้วนหรือพับอยู่ด้วย (๓) ข้อมูลข่าวสารที่มีสภาพเป็นจานบันทึก แถบบันทึก ฟิล์มบันทึกภาพ ทุกประเภทหรือสิ่งบันทึกที่สามารถแสดงผลหรือสื่อความหมายโดยกรรมวิธีใด ๆ ให้แสดงชั้นความลับไว้ ที่ต้นและปลายม้วนฟิล์มหรือต้นและปลายของข้อมูลข่าวสารหรือบนวัสดุหรือบนภาชนะที่บรรจุ ถ้าไม่สามารถ แสดงชั้นความลับไว้ในที่ดังกล่าวได้ ให้เก็บในกล่องหรือหีบห่อ ซึ่งมีเครื่องหมายแสดงชั้นความลับนั้น 23. การปรับใช้ความลับ ข้อใดยังไม่ถูกต้อง ? ก. ต้องกระทำโดยผู้มีอำนาจของหน่วยงานเจ้าของเรื่อง ข. ผู้บังคับบัญชาตามสายงานมีอำนาจปรับชั้นความลับได้ทันทีเมื่อพิจารณาเห็นว่าการกำหนดใช้ความลับไม่เหมาะสม ค.ถ้าสามารถกำหนดระยะเวลาในการปรับชั้นความลับล่วงหน้าได้ ให้หน่วยงานเจ้าของ เรื่องเดิมแสดงข้อความการปรับชั้นความลับไว้บนปกหน้า หรือหน้าแรกของข้อมูลข่าวสารแต่ละฉบับ ง. ยังไม่พบข้อผิด ตอบ ข.ผู้บังคับบัญชาตามสายงานมีอำนาจปรับชั้นความลับได้ทันทีเมื่อพิจารณาเห็นว่าการกำหนดใช้ความลับไม่เหมาะสม (ต้องแจ้งให้ผู้กำหนดชั้นความลับเดิมทราบ) ( ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับ ฯ ข้อ 23) ข้อ ๒๓การปรับชั้นความลับ ต้องกระทำโดยผู้มีอำนาจกำหนดชั้นความลับของหน่วยงานเจ้าของเรื่องในกรณีที่ หน่วยงานเจ้าของเรื่องเห็นควรให้ทำการปรับชั้นความลับของข้อมูลข่าวสารลับใด ให้ หน่วยงานเจ้าของเรื่องทำการปรับชั้นความลับและแจ้งให้หน่วยงานของรัฐอื่นที่ ได้รับการแจกจ่ายทราบเพื่อให้มีการแก้ไขชั้นความลับโดยทั่วกันด้วย ผู้บังคับบัญชาตามสายงานมีอำนาจปรับชั้นความลับได้เมื่อพิจารณาเห็นว่าการกำหนดชั้น ความลับไม่เหมาะสม แต่ต้องแจ้งให้ผู้กำหนดชั้นความลับเดิมทราบ ถ้า สามารถกำหนดระยะเวลาในการปรับชั้นความลับล่วงหน้าได้ ให้หน่วยงานเจ้าของเรื่องเดิมแสดงข้อความการปรับชั้นความลับไว้บนปกหน้าหรือ หน้าแรกของข้อมูลข่าวสารแต่ละฉบับโดยแสดงไว้ใกล้กับเครื่องหมายแสดงชั้นความ ลับเดิม เพื่อให้ทราบว่าเมื่อถึงกำหนดเวลาที่ระบุไว้ล่วงหน้านั้นจะปรับชั้นความลับ ได้โดยไม่ต้องยืนยันให้ทราบอีกการแก้ไขชั้นความลับ ให้ขีดฆ่าเครื่องหมายแสดงชั้นความลับเดิมแล้วแสดงเครื่องหมายชั้นความลับที่ กำหนดใหม่ (ถ้ามี) ไว้ใกล้กับเครื่องหมายแสดงชั้นความลับเดิมบนข้อมูลข่าวสารดังกล่าวและให้จด แจ้งการปรับชั้นความลับนั้นไว้ในทะเบียนข้อมูลข่าวสารลับด้วย ในกรณีที่เห็นสมควร หัวหน้าหน่วยงานของรัฐจะกำหนดให้จดแจ้งการปรับชั้นความลับไว้ที่หน้าแรกของ เอกสารหรือที่แสดงชั้นความลับตามข้อ ๒๒ (๓) แล้วแต่กรณี 24. ข้อมูลข่าวสารลับที่คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารมีคำวินิจฉัย ให้เปิดเผยโดยไม่มีข้อจำกัดหรือเงื่อนไขใด ให้ถือว่า ? ก. ข้อมูลข่าวสารนั้นต้องนำมาเปิดเผยทันที ข. หากจะนำมาใช้ต้องกำหนดชั้นความลับใหม่ ค. ข้อมูลข่าวสารนั้นถูกยกเลิกชั้นความลับแล้ว ง. ถูกหมด ตอบ ค.ข้อมูลข่าวสารนั้นถูกยกเลิกชั้นความลับแล้ว ( ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับ ฯ ข้อ 24) ข้อ ๒๔ ข้อมูลข่าวสารลับที่คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารมี คำวินิจฉัยให้เปิดเผยโดยไม่มีข้อจำกัดหรือเงื่อนไขใด ให้ถือว่าข้อมูลข่าวสารนั้นถูกยกเลิกชั้นความลับแล้ว เว้นแต่มีการฟ้องคดีต่อศาลและศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาเป็นอย่างอื่น 25. หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ควบคุมและรับผิดชอบการ ดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารลับขึ้นภายในหน่วยงานที่ตนรับผิดชอบเรียกว่า ? ก. เจ้าหน้าที่บริหารงานทะเบียนลับ ข. นายทะเบียนข้อมูลข่าวสารลับ ค.นายทะเบียนเอกสารลับ ง. ให้หัวหน้าหน่วยเรียกชื่อได้ตามความเหมาะสม ตอบ ข. นายทะเบียนข้อมูลข่าวสารลับ( ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับ ฯ ข้อ 25) การทะเบียน นายทะเบียน ข้อ ๒๕ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ควบคุมและรับผิดชอบการดำเนิน การเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารลับขึ้นภายในหน่วยงานที่ตนรับผิดชอบเรียกว่า “นายทะเบียนข้อมูลข่าวสารลับ”และ จะแต่งตั้งผู้ช่วยนายทะเบียนข้อมูลข่าวสารลับตามความเหมาะสมด้วยก็ได้ให้ผู้ ช่วยนายทะเบียนข้อมูลข่าวสารลับมีอำนาจหน้าที่ปฏิบัติการแทนนายทะเบียน ข้อมูลข่าวสารลับตามที่ได้รับมอบหมาย 26.ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของนายทะเบียนข้อมูลข่าวสารลับ ? ก. ดำเนินการทางทะเบียนข้อมูลข่าวสารลับให้เป็นไปตามระเบียบนี้ ข. เก็บรักษาแบบเอกสารต่างๆ ซึ่งยังไม่ได้กรอกข้อความตามระเบียบนี้และบรรดาข้อมูลลับที่อยู่ในความควบคุมดูแลที่ไม่ปลอดภัย ค.เก็บรักษาบัญชีลายมือชื่อนายทะเบียนข้อมูลข่าวสารลับ และผู้ช่วยนายทะเบียนข้อมูลข่าวสารลับของหน่วยงานของรัฐอื่นๆ ที่ติดต่อเกี่ยวข้องกันเป็นประจำ ง.ประสานงานกับผู้ควบคุมทะเบียนความไว้วางใจตามที่กำหนดในระเบียบว่าด้วยการ รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ เพื่อกำหนดตัวบุคคลที่จะเข้าถึงชั้นความลับตามความเหมาะสมและความรับผิดชอบ ตอบ ข. เก็บรักษาแบบเอกสารต่างๆ ซึ่งยังไม่ได้กรอกข้อความตามระเบียบนี้และบรรดาข้อมูลลับที่อยู่ในความควบคุมดูแลที่ไม่ปลอดภัย ( ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับ ฯ ข้อ 26) ข้อ ๒๖ นายทะเบียนข้อมูลข่าวสารลับ มีหน้าที่ดังนี้ (๑) ดำเนินการทางทะเบียนข้อมูลข่าวสารลับให้เป็นไปตามระเบียบนี้ (๒) เก็บรักษาแบบเอกสารต่าง ๆ ซึ่งกรอกข้อความแล้วตามระเบียบนี้และบรรดาข้อมูลข่าวสารลับที่อยู่ในความควบคุมดูแลไว้ในที่ปลอดภัย (๓)เก็บรักษาบัญชีลายมือชื่อนายทะเบียนข้อมูลข่าวสารลับ และผู้ช่วยนายทะเบียนข้อมูลข่าวสารลับของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่ติดต่อเกี่ยวข้องกันเป็นประจำ (๔)ประสานงานกับผู้ควบคุมทะเบียนความไว้วางใจตามที่กำหนดในระเบียบว่าด้วยการ รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ เพื่อกำหนดตัวบุคคลที่จะเข้าถึงชั้นความลับตามความเหมาะสมและความรับผิดชอบ (๕) ปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารลับตามที่กำหนดไว้ในระเบียบนี้หรือตามที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ 27. ข้อใดไม่ใช่ส่วนประกอบของทะเบียนข้อมูลข่าวสารลับ ? ก. ทะเบียนรับ ข.ทะเบียนส่ง ค.ทะเบียนควบคุมข้อมูลข่าวสารลับ ง.ทะเบียนงานสารบรรณ ตอบ ง.ทะเบียนงานสารบรรณ ( ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับ ฯ ข้อ 27) ข้อ ๒๗นายทะเบียนข้อมูลข่าวสารลับอย่างน้อยต้องจัดให้มีทะเบียนข้อมูลข่าวสารลับ ประกอบด้วย ทะเบียนรับ ทะเบียนส่ง และทะเบียนควบคุมข้อมูลข่าวสารลับ แยกต่างหากจากทะเบียนงาน สารบรรณตามปกติของหน่วยงานของรัฐทะเบียนรับ ใช้สำหรับบันทึกรายละเอียดของข้อมูลข่าวสารลับที่หน่วยงานได้รับไว้ ทะเบียนส่ง ใช้สำหรับบันทึกรายละเอียดของข้อมูลข่าวสารลับที่ส่งออกนอกบริเวณหน่วยงาน ทะเบียน ควบคุมข้อมูลข่าวสารลับ ใช้สำหรับบันทึกทางทะเบียนเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารลับที่หน่วยงานจัดทำขึ้น ใช้งานหรือได้ส่งออกหรือได้รับมา รวมทั้งบันทึกการปฏิบัติต่าง ๆ เกี่ยวกับข้อมูล ข่าวสารลับนั้น ทะเบียน ข้อมูลข่าวสารลับให้ถือว่าเป็นข้อมูลข่าวสารลับด้วยแบบทะเบียนรับ ทะเบียนส่งและทะเบียนควบคุมข้อมูลข่าวสารลับให้เป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรี กำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ข้อ ๒๘ในกรณีที่เห็นสมควร หัวหน้าหน่วยงานของรัฐจะจัดให้มีระบบทะเบียนข้อมูล ข่าวสารลับขึ้นในหน่วยงานส่วนย่อยด้วยก็ได้ และให้นำความในข้อ ๒๕ ข้อ ๒๖ และข้อ ๒๗ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
28. ใครเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบ ? ก. นายทะเบียนข้อมูลข่าวสารลับ ข.นายทะเบียนเอกสารลับ ค.นายทะเบียนสารบรรณกลาง ง. หัวหน้าหน่วยงาน ตอบ ก. นายทะเบียนข้อมูลข่าวสารลับ (ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับ ฯ ข้อ 29) ข้อ ๒๙ ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ประกอบด้วย นายทะเบียนข้อมูลข่าวสารลับเป็นประธานกรรมการ และเจ้าหน้าที่อื่นอีกไม่น้อยกว่าสองคนเป็นกรรมการ ทำการตรวจสอบความถูกต้องในการปฏิบัติตามระเบียนนี้และการมีอยู่ของข้อมูลข่าวสารลับที่มีอยู่ใน ทะเบียนข้อมูลข่าวสารลับอย่างน้อยทุกหกเดือน และเสนอรายงานการตรวจสอบให้หัวหน้าหน่วยงาน ของรัฐนั้นทราบและสั่งการต่อไป 29. เมื่อสงสัยว่ามีการละเมิดการรักษาความลับของข้อมูลข่าวสารของราชการให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐทำอย่างไร ? ก. แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงโดยไม่ชักช้า ข. แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบภายในโดยรวดเร็ว ค. แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนโดยไม่ชักช้า ง. แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนและสอบสวนโดยทันที ตอบ ค. แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนโดยไม่ชักช้า ( ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับ ฯ ข้อ 30) ข้อ ๓๐เมื่อสงสัยว่าบุคคลที่ไม่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารลับได้รู้ หรืออาจรู้ถึงข้อมูลข่าวสารลับหรือเมื่อสงสัยว่ามีการละเมิดการรักษาความลับ ของข้อมูลข่าวสารของราชการให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแต่งตั้งคณะกรรมการสอบ สวนโดยไม่ชักช้า คณะกรรมการสอบสวนตามวรรคหนึ่ง ต้องเป็นผู้ซึ่งมิได้เป็นคณะกรรมการตรวจสอบตามข้อ ๒๙ 30. การดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารลับในทุกขั้นตอน ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐกำหนดอะไรอย่างไรบ้าง ? ก. ปริมาณข้อมูลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพียงเท่าที่จำเป็นต่อภารกิจ ข. เวลาที่ปฏิบัติภารกิจ และ จำนวนเจ้าหน้าที่เท่าที่จำเป็นเท่านั้น ค. งบประมาณ จำนวนเจ้าหน้าที่ และจำกัดให้ทราบเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ง. จำนวนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพียงเท่าที่จำเป็นต่อภารกิจ และจำกัดให้ทราบเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ตอบ ง. จำนวนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพียงเท่าที่จำเป็นต่อภารกิจ และจำกัดให้ทราบเท่าที่จำเป็นเท่านั้น (ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับ ฯ ข้อ 31) ข้อ ๓๑ การดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารลับในทุกขั้นตอน ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐกำหนดจำนวนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพียงเท่าที่จำ เป็นต่อภารกิจ และจำกัดให้ทราบเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ต้องเปิดเผย มาตรา 14 ข้อมูลข่าวสารของราชการที่อาจก่อให้เกิด ความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์จะเปิดเผยมิได้ มาตรา 15 ข้อมูล ข่าวสารของราชการที่มีลักษณะอย่างหนึ่ง อย่างใดดังต่อไปนี้ หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอาจมีคำสั่งมิให้เปิดเผยก็ได้ โดยคำนึงถึงการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ของหน่วยงานของรัฐประโยชน์สาธารณะ และประโยชน์ของเอกชนที่เกี่ยวข้องประกอบกัน (1) การ เปิดเผยจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือความมั่นคงในทางเศรษฐกิจ หรือการคลังของประเทศ (2) การ เปิดเผยจะทำให้การบังคับใช้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพหรือไม่อาจสำเร็จตาม วัตถุประสงค์ได้ ไม่ว่าจะ เกี่ยวกับการฟ้องคดี การป้องกันการปราบปราม การทดสอบ การตรวจสอบ หรือการรู้แหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสารหรือไม่ ก็ตาม (3) ความ เห็นหรือคำแนะนำภายในหน่วยงานของรัฐในการดำเนินการเรื่องหนึ่งเรื่องใด แต่ทั้งนี้ไม่รวมถึงรายงาน ทางวิชาการ รายงานข้อเท็จจริง หรือข้อมูลข่าวสารที่นำมาใช้ในการทำความเห็นหรือคำแนะนำภายในดังกล่าว (4) การเปิดเผยจะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตหรือความปลอดภัยของบุคคลหนึ่งบุคคลใด (5) รายงานการแพทย์หรือข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลซึ่งการเปิดเผยจะเป็นการรุกล้ำสิทธิส่วนบุคคลโดยไม่สมควร (6) ข้อมูล ข่าวสารของราชการที่มีกฎหมายคุ้มครองมิให้เปิดเผยหรือข้อมูลข่าวสารที่มีผู้ ให้มาโดยไม่ประสงค์ให้ ทางราชการนำไปเปิดเผยต่อผู้อื่น (7) กรณีอื่นตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา คำ สั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการจะกำหนดเงื่อนไขอย่างใดก็ได้ แต่ต้องระบุไว้ด้วยว่าที่เปิดเผยไม่ได้ เพราะเป็นข้อมูลข่าวสารประเภทใดและเพราะเหตุใด และให้ถือว่าการมีคำสั่งเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการเป็น ดุลพินิจ โดยเฉพาะของเจ้าหน้าที่ของรัฐตามลำดับสายการบังคับบัญชา แต่ผู้ขออาจอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการ เปิดเผยข้อมูลข่าวสารได้ตามที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้ สั่งซื้อที่
ส่งเป็นไฟล์ทางอีเมล์ สนใจสั่งซื้อมาที่ โทร 085-0127724 Line : testthai1 สามารถนำไปปริ้นเพื่นอ่านได้เลย ในราคาเพียงส่ชุดละ 399 บาท ได้รับภายใน 2-3 ชม. ส่ง EMS ทางไปรษณีย์ เป็นหนังสือ +MP3 ราคา 679 บาท ได้รับภายใน 2-3 วัน กรุณาชำระค่าสินค้าและบริการ เลขที่บัญชี 491-2-00428-2 ธ.กสิกรไทย ออมทรัพย์ ชื่อบัญชี decho pragay
ผลงานการสอบได้ของลูกค้า ติดตามข่าวการสอบราชการที่ https://www.facebook.com/testthai1 ดาวน์โหลดแนวข้อสอบรับราชการที่นี่ www.ข้อสอบงานราชการไทย.com
|