เวอร์ชันเต็ม: [-- ข้อสอบ ป.วิอาญา --]

งานราชการ แนวข้อสอบ รับราชการ ก.พ. อบต. ครูผู้ช่วย ตำรวจ ธกส -> แนวข้อสอบตำรวจ 2558 -> ข้อสอบ ป.วิอาญา [สั่งพิมพ์] เข้าสู่ระบบ -> ลงทะเบียน -> ตอบกลับ -> ตั้งกระทู้

admin 2012-01-22 11:17

ข้อสอบ ป.วิอาญา

.    อ.เป็นพนักงานของธนาคาร จ่ายเงินให้ลุกค้าไปโดยผิดหลง ลูกค้าไม่ยอมคืนเงิน  อ. ได้ร้องทุกข์ต่อ  พงส. 

ให้ดำเนินคดีกับลูกค้าฐานยักยอก  อ.มีอำนาจร้องทุกข์คดีนี้หรือไม่ อย่างไร


                ๑.   อ. เป็นผู้เสียหายที่มีอำนาจร้องทุกข์

                ๒.  อ. เป็นผู้แทนผู้เสียหาย  มีอำนาจร้องทุกข์

  ๓.   อ. ไม่ใช่ผู้เสียหาย  ไม่มีอำนาจร้องทุกข์

                ๔.   อ. เป็นผู้แทนนิติบุคคล  แต่มิใช่ผู้จัดการ  ไม่มีอำนาจร้องทุกข์

(เฉลย ข้อ  ๑  )


๒.   จ่าสิบเอกขาวได้ทำเอกสารเท็จยื่นขอเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลจากเจ้าหน้าที่การเงินของมณฑลทหารบกที่
  ๓๑
 ผู้ใดมีอำนาจร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับจ่าสิบเอกขาว


                ๑.   เจ้าหน้าที่การเงิน                                                         

               ๒.   ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่  ๓๑   
                ๓.   กองทัพภาคที่ ๓                                                         

                ๔.   กองทัพบก


(เฉลย ข้อ  ๔  )


๓.   นายสิงห์ได้มาหลอกลวงนางสายและสามีว่ามีชื่อในบัญชีดำของตำรวจว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษ 
ทางราชการกำลังดำเนินการยึดทรัพย์สินของนางสายและสามี ให้นางสายมอบเงินให้จะนำไปวิ่งเต้นเอาชื่ออกจากบัญชีดำของตำรวจ  นางสายหลงเชื่อจึงได้มอบเงินจำนวน  ๓๐๐,๐๐๐ บาท  ให้แก่นายสิงห์ไป  ต่อมานางสายทราบเรื่องว่าใช่ความจริง  จึงได้ร้องทุกข์มอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับนายสิงห์  นางสายเป็นผุ้เสียหายหรือไม่  อย่างไร


                ๑.    นางสายมิใช่ผู้เสียหายเพราะมีส่วนร่วมในการกระทำผิด

                ๒.   นางสายมิใช่ผู้เสียหายเพราะเป็นผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
                ๓.   นางสายเป็นผู้เสียหาย  เพราะความจริงแล้วนางสายและสามีมิได้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด

                ๔.   นางสายมิใช่เป็นผู้ได้รับความเสียหายโดยตรง


(เฉลย ข้อ  ๓  )


๔.    นาย ก.  กับ นาย ข. ขับรถชนกันโดยประมาท  เป็นเหตุให้นาย ก. ถึงแก่ความตาย  อัยการได้ฟ้อง นาย ข. 
ฐานะกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย  ตาม ป.อ.มาตรา ๒๙๑ ต่อมา นาย ค. บิดาของ นาย ก. 
ได้ยื่นคำร้องขอเป็นโจทย์ร่วมกับพนักงานอัยการได้หรือไม่  เพราะอะไร


                ๑.    นาย ค. เป็นโจทย์ร่วมได้เป็นผู้แทนโดยชอบธรรม

                ๒.   นายค.  ขอเป็นโจทย์ร่วมได้เพราะเป็นบุพการี
                ๓.   นาย ค. ขอเป็นโจทย์ร่วมไม่ได้  เพราะนาย
ก.  มิใช่ผู้เสียหาย        
       ๔.   นาย ค.
ขอเป็นโจทย์ร่วมไม่ได้  เพราะนาย ค.มิใช่ผู้แทนเฉพาะคดี

(เฉลย ข้อ  ๓  )

๕.ความผิดฐานใดบ้างที่เอกชนมิใช่ผู้เสียหาย
                ๑.    ค้าที่ดินโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม ป.ที่ดิน

                ๒.   นำเข้าสินค้าโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร ตาม
พ.ร.บ.ศุลกากร  พ.ศ. ๒๔๖๙
                ๓.   จำหน่ายยาเสพติดให้โทษ  ประเภท ๑
ตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ  พ.ศ.๒๕๒๒   
                ๔.   ถูกทุกข้อ


(เฉลย ข้อ  ๔  )

๖.    นายดำได้ยืมเงินนายแดง  จำนวน๑  แสนบาท  โดยนำโฉนดที่ดินไปให้นายแดงยึดถือไว้เป็นประกัน 

ต่อมานายดำไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนว่าโฉนดที่ดินฉบับที่ให้นายแดงยึดถือไว้นั้นสูญหาย  จากนั้นนายดำได้ไปขอใบแทนโฉนดใหม่ 
แล้วนายดำได้โอนขายที่ดินแปลงนั้นให้กับนายขาวไป  ผู้ใดเป็นผู้เสียหายในความผิดฐานแจ้งความเท็จ


                ๑.    นายแดง                                                                         ๒.   นายขาว

                ๓.   นายแดงและนายขาว                                                  ๔.   ไม่มีข้อถูก

(เฉลย ข้อ  ๔  )


๗.   นายสีไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนว่า ตนขับรถเฉี่ยวชนผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ แต่ความจริงนายสีไม่ได้ขับรถเฉี่ยวชนคนบาดเจ็บแต่อย่างใด 
นายสีต้องการหลักฐานการแจ้งความไปขอเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากบริษัท ก.ผู้รับประกันภัย  ต่อมาบริษัท ก.
ทราบว่าเป็นความเท็จ  ประสงค์จะฟ้องนายสี  บริษัท ก. มีอำนาจฟ้องหรือไม่  อย่างไร


                ๑.    บริษัท ก. ไม่ใช่นิติบุคคล  ไม่มีอำนาจฟ้อง

                ๒.   บริษัท ก. มีอำนาจฟ้องในความผิดฐานแจ้งความเท็จ ตาม ป.อ.มาตรา ๑๓๗
                ๓.    บริษัท
ก.มีอำนาจฟ้องในความผิดฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ ป.อ.มาตรา ๒๖๗
                ๔.   บริษัท ก. ไม่มีอำนาจฟ้องในความผิดฐานแจ้งความเท็จและแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอัน

        เป็นเท็จ  ตาม ป.อ.มาตรา ๑๓๗, ๒๖๗

(เฉลย ข้อ  ๔  )


๘.   หญิงมีสามีตกรถยนต์ตาย จำเลยเก็บทรัพย์ของหญิงนั้นไว้เพื่อนำไปมอบแก่สามีของหญิงผู้ตาย  แล้วจำเลยยักยอกเอาทรัพย์นั้น  ผู้ใดมีอำนาจฟ้องจำเลย


 ๑.    พนักงานอัยการ  โดยไม่ต้องมีการร้องทุกข์

                ๒.   สามีของหญิงโดยต้องได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากหญิงนั้น
                ๓.   สามีของหญิง กรณีหญิงถูกทำร้ายตาย

                ๔.   สามีของหญิง โดยเป็นผู้เสียหายโดยตรง


(เฉลย ข้อ  ๔  )


๙.    นาย ก.อายุ  ๒๑ ปี  เป็นคนวิกลจริต  ไม่รู้สึกผิดชอบ  อาศัยอยู่กับนาง ข. มารดา และ นาย ค. บิดา
ที่ไม่ได้จดทะเบียน  ต่อมานาย ก.  ได้ถูกคนร้ายชกต่อยได้รับบาดเจ็บ  ผู้ใดมีอำนาจฟ้องคนร้ายที่ทำร้าย นาย ก. ได้

                ๑.    นาง ข.                                                                            ๒.   นาย ค.

                ๓.   นาง ข. และ  นาย ค.                                                    ๔.   ไม่มีข้อใดถูก


(เฉลย ข้อ  ๑  )

๑๐. นายดินอยู่กินกับนางฟ้าโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรม  และมีบุตรหนึ่งคน คือ  นางสาวงาม อายุ  ๑๗

ปี  ต่อมานายลมได้กระทำอนาจารนางสาวงาม ดังนี้ นายดินจะร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายลมได้หรือไม่  เพราะเหตุใด


                ๑.    ไม่ได้  เพราะนายดินไม่ใช่ผู้แทนโดยชอบธรรม

                ๒.   ไม่ได้  เพราะนายดินไม่ใช่ผู้อำนาจปกครอง
                ๓.   ได้  เพราะนายดินเป็นผู้ดูแลเด็กหญิงงามผู้เยาว์

                ๔.   ได้  เพราะนายดินเป็นบุพการีตามความเป็นจริง  


(เฉลย ข้อ  ๑  )

๑๑.  ข้อใดเป็นคำร้องทุกข์

 ๑.    ในคดียักยอก ผู้เสียหายนำความไปแจ้งเพื่อชะลอการดำเนินคดีไว้ก่อน  ถ้าหากจำเลยไม่ชำร     จะได้แจ้งความดำเนินคดีต่อไป

                ๒.   ในคดียักยอกข้าวสารและน้ำตาลทราย ผู้เสียหายแจ้งความว่าแจ้งไว้เป็นหลักฐานเพื่อไม่ให้คดีขาด      อายุความ
                ๓.  แจ้งความต่อผู้ใหญ่บ้าน จำเลยข่มขืนกระทำชำเรา แต่ขอไปดูก่อน หากจำเลยย้อนมาอีกก็จะเอาเรื่อง
   ถ้าไม่มาอีกก็แล้วไป
                ๔.   แจ้งความในเรื่องเช็ค  โดยขอร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย  แต่ต้องการนำเช็คไปฟ้องร้องต่อ
    ศาลอีกทางหนึ่ง

(เฉลย ข้อ  ๔  )

๑๒.  หจก.เลิศก่อสร้าง  มีนายเลิศและนายดี  เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ  โดยหุ้นส่วนผู้จัดการสองคนลงชื่อร่วมกันจึงจะผูกพันห้อง  ต่อมา 

หจก.เลิศก่อสร้าง ถูกนายบังอาจยักยอกทรัพย์ นายเลิศจึงได้ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายบังอาจฐานยักยอกทรัพย์
หจก.เลิศก่อสร้าง พนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนคดีนี้หรือไม่


                ๑.   ไม่มีอำนาจสอบสวน เพราะนายเลิศมิใช่หุ้นส่วนผู้จัดการ

                ๒.  ไม่มีอำนาจสอบสวน เพราะร้องทุกข์ไม่ชอบ
                ๓.  มีอำนาจสอบสวน  เพราะนายเลิศ เป็นผู้แทนนิติบุคคล

                ๔.  มีอำนาจสอบสวน  เพราะนายเลิศ เป็นผู้รับมอบอำนาจ


(เฉลย ข้อ  ๒  )

๑๓.  นายขาวเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทร่ำรวยจำกัดซึ่งบริษัทถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดอาญาและเป็นผู้ต้องหา 

พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกนายขาวในฐานะผู้จัดการหรือผู้แทนนิติบุคคล (บริษัท) ให้มาพบตามหมายเรียกแต่นายขาวไม่มา 
พนักงานสอบสวนมีอำนาจกระทำการใด


                ๑.   ไม่มีอำนาจเรียกตัวหรือนำตัวนายขาวมาได้

                ๒.  มีอำนาจเรียกตัวหรือนำตัวนายขาวมาได้
                ๓.  ต้องขอให้ศาลออกหมายจับเสียก่อน

                ๔.  ถูกทั้งข้อ ๒  และ ๓


(เฉลย ข้อ  ๓  )


๑๔.  ในระหว่างทำการสอบสวนของพนักงานสอบสวน  นายดำ ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ได้ป่วยวิกลจริต 
พนักงานสอบสวนจึงได้ส่งตัวนายดำไปให้แพทย์ตรวจ  แพทย์ได้ลงความเห็นว่า นายดำ ป่วยจริงและไม่สามารถต่อสู้คดีได้ 
พนักงานสอบสวนต้องดำเนินการอย่างไรต่อไปจึงจะชอบด้วยกฎหมาย



                ๑.   ต้องสรุปสำนวนเสนอพนักงานอัยการ มีความเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากผู้ต้องหาวิกลจริต

                ๒.  ต้องสรุปสำนวนเสนอพนักงานอัยการ มีความเห็นควรให้งดการสอบสวน เนื่องจากผู้ต้องหาวิกลจริต
                ๓.  ต้องสรุปสำนวนเสนอพนักงานอัยการ มีความเห็นควรงดการสอบสวน เนื่องจากผู้ต้องหาวิกลจริต

                ๔.  พนักงานสอบสวนมีอำนาจให้งดการสอบสวนด้วยตนเองโดยไม่ต้องเสนอสำนวนไปยังพนักงาน
   อัยการ

(เฉลย ข้อ  ๔  )

๑๕.  จ่าสิบตำรวจมงคล  กับพวกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านติ้ว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์  ตั้งจุดตรวจชั่วคราวที่ถนนบ้านร่องบง –

บ้านติ้ว ซึ่งความจริงอยู่ในเขตตำบลบ้านหวาย นอกเขตรับผิดชอบของ สภ.บ้านติ้ว แต่ตลอดแนวถนนไม่มีป้ายหรือสิ่งปลูกสร้างใดแสดงให้ปรากฏว่าบริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตท้องที่หมู่บ้านหรือตำบลใด  จ่าสิบตำรวจมงคล กับพวกเชื่อว่าบริเวณที่ตั้งจุดตรวจอยู่ในเขตอำนาจรับผิดชอบของ สภ.บ้านติ้ว  ระหว่างนั้น นายดำขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจจึงได้โยนยาบ้าทิ้งในเขตตำบลบ้านหวาย  แต่จ่าสิบตำรวจมงคลกับพวก พบเห็นการกระทำความผิด 
จึงได้จับกุมนายดำพร้อมยาบ้าของกลางนำส่ง พงส.สภ.บ้านติ้ว  ทำการสอบสวน (ฎ.๕๙๘๐/๒๕๕๐)  ข้อใดถูก



                ๑.    พงส.สภ.บ้านติ้ว  ไม่ใช่ พงส.ผู้รับผิดชอบ เพราะความผิดไม่ได้เกิดในท้องที่

                ๒.   พงส.สภ.บ้านติ้ว  ไม่ใช่ พงส.ผู้รับผิดชอบ เพราะไม่ใช่ท้องที่ที่ผู้ต้องหาถูกจับกุม
                ๓.   พงส.สภ.บ้านติ้ว  มีอำนาจสอบสวน เพราะเชื่อว่าความผิดได้เกิดขึ้นในท้องที่ของตน

                ๔.   พงส.สภ.บ้านติ้ว  มีอำนาจสอบสวน เพราะความผิดเกิดในท้องที่ของตน


(เฉลย ข้อ  ๓  )

๑๖.  นายแดงยักยอกรถ จยย.มาจากเขต อ.เมืองลำปาง  จะนำไปขายที่เขมร  เจ้าพนักงานตำรวจสภ.เมืองลำปางได้รับแจ้งเหตุแล้วได้ติดตามจับกุมจำเลยได้ขณะนำรถ จยย.มาถึงอ.กบินทร์บุรี

พนักงานสอบสวนที่ใดเป็นผู้รับผิดชอบ


                ๑.   สภ.กบินทร์บุรี                                                             

                ๒.   สภ.เมืองลำปาง      
               ๓.   สภ.กบินทร์บุรี  และ
สภ.เมืองลำปาง                     
                ๔.   กองปราบปราม


(เฉลย ข้อ  ๒  )

๑๗.  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไทยเจริญ  ได้จับกุมนายขาวฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย  โดยจับกุมได้ในเขต  อ.เมืองอำนาจเจริญ  แต่ที่เกิดเหตุอยู่ใกล้กับ  สภ.ไทยเจริญมากกว่า  เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ไทยเจริญจึงได้ควบคุมตัวนายขาวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทยเจริญ  ซึ่งสะดวกกว่าทำการสอบสวน  พนักงานสอบสวน สภ.ไทยเจริญสอบสวนแล้วเหตุในคดีนี้เกิดในพื้นที่ อ.เมืองอำนาจเจริญแต่เป็นกรณีไม่แน่ว่าความผิดเกิดในท้องที่ใดในระหว่างหลายท้องที่จึงรับไว้สอบสวนต่อไปจนเสร็จ  ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการพิจารณา  พนักงานอัยการมีอำนาจฟ้องคดีนี้หรือไม่  อย่างไร

                ๑.    พนักงานอัยการมีอำนาจฟ้อง  เพราะมีการสอบสวนแล้ว

                ๒.   พนักงานอัยการมีอำนาจฟ้อง  เพราะพนักงานสอบสวน สภ.ไทยเจริญ  เป้นพนักงานสอบสวน ผู้รับผิดชอบ
                ๓.   พนักงานอัยการ  ไม่มีอำนาจฟ้อง  เพราะการสอบสวนไม่ชอบ  ถือว่ายังมิได้มีการสอบสวนใน
ความผิดนั้น
                ๔.   พนักงานอัยการไม่มีอำนาจฟ้อง  เพราะเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมมิชอบ


(เฉลย ข้อ  ๓  )


๑๘.  ข้อใดเป็นความผิดต่อเนื่อง


                ๑.    จำเลยวางยาพาให้ผู้ตายดื่มในพื้นที่ สน.ดอนเมือง แต่ผู้ตายถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลในท้องที่ สน.บางเขน  แล้วถึงแก่ความตาย


                ๒.  จำเลยแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานที่อำเภอหนองแซง  ต่อมาจำเลยได้ไปเบิกความต่อศาลที่อำเภอสระบุรี 

ซึ่งเจ้าพนักงานตำรวจยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจำเลยกระทำผิดฐานแจ้งความเท็จหรือเบิกความเท็จ

                ๓.   จำเลยที่ ๑ และที่ ๒  อยู่เทเวศร์  จำเลยที่ ๑ ปลอมใบรับเงินที่ใดไม่ปรากฏ  แต่เอามาอออกจำเลยที่ ๑ ถูกจับกุมที่ สน.นางเลิ้ง  ส่วนจำเลยที่ ๒ ถูกจับกุมที่ สน.บุปผาราม  พนักงานสอบสวนสน.บุปผาราม  พนักงานสอบสวน สน.บุปผาราม  ดำเนินคดีกับจำเลยที่ ๑ และที่ ๒  ฐานร่วมกัน     

กระทำความผิด

                ๔.   จำเลยออกเช็คในท้องที่หนึ่ง  แล้วธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินในอีกท้องที่หนึ่ง

(เฉลย ข้อ  ๔  )

สั่งซื้อที่

ส่งเป็นไฟล์ทางอีเมล์ สนใจสั่งซื้อมาที่ โทร 085-0127724  Line : testthai1
สามารถนำไปปริ้นเพื่นอ่านได้เลย ในราคาเพียงส่ชุดละ 399 บาท  ได้รับภายใน 2-3 ชม.
ส่ง EMS ทางไปรษณีย์ เป็นหนังสือ +MP3  ราคา 679 บาท ได้รับภายใน 2-3 วัน
กรุณาชำระค่าสินค้าและบริการ
เลขที่บัญชี 491-2-00428-2 
ธ.กสิกรไทย  
ออมทรัพย์ ชื่อบัญชี decho pragay

ผลงานการสอบได้ของลูกค้า 
ติดตามข่าวการสอบราชการที่  https://www.facebook.com/testthai1
ดาวน์โหลดแนวข้อสอบรับราชการที่นี่  www.ข้อสอบงานราชการไทย.com




เวอร์ชันเต็ม: [-- ข้อสอบ ป.วิอาญา --] [-- top --]


Powered by PHPWind v7.5 SP3 Code ©2003-2010 PHPWind
Time 0.011619 second(s),query:1 Gzip enabled

You can contact us